มาทำความรู้จัก กรองน้ำมันเครื่อง กันซักนิด ผมว่าหลายคน ยังไม่รู้จักมันดีพอและละเลยการพิจารณาคุณภาพของสินค้า ดูแต่ภายนอกสีสวยงามและมียี่ห้อ เท่านั้น หน้าที่หลักของมัน ก็ตามชื่อเลย กรองน้ำมันเครื่อง ก็ต้องกรองสิ่งสกปรก ในน้ำมันเครื่องออกจากน้ำมันเครื่องนั้นเอง มาละเอียดเข้าไปอีกนิด มาดูส่วนประกอบหลักๆ และหน้าที่ ของมันจะอธิบาย ย่อยลงมาอีกนิด
1.Sealing Ring ซิลระหว่างฐานกรองน้ำมันเครื่องกับกรองน้ำมันเครื่อง
หน้าที่ ป้องกันการรั่วซึมของน้ำมันเครื่องระหว่างฐานกรองกับ กรอง เวลาติดตั้งความจะมีสารหล่อลื่น (ปกติจะมีมาบ้างส่วน) แต่แนะนำให้ทา น้ำมันเครื่อง เพิ่มทุกครั้ง
2. Cover Plate ตัวปิดฐานกรองน้ำมันเครื่อง เป็นฝาปิด และช่องทางให้น้ำมันเครื่องไหล เข้า และ ออก
3. Anti-Drain Valve หน้าที่ ป้องกันน้ำมันไหลย้อนกลับ
4. Filter Media ผ้ากรองหรือไส้กรองน้ำมันเครื่องนั้นเอง (หัวใจหลัก)
หน้าที่ กรองสิ่งสกปรกในน้ำมันเครื่อง
5. Support Tube แกนกรองน้ำมันเครื่อง เป็นแกนให้ผ้ากรองยึดติดโครงสร้างเหล็กรูพรุน
6. Bypass Valve ช่องระบายน้ำมันเครื่อง เพื่อรักษาระดับแรงดัน
7.Relief Spring หน้าที่ รักษาระดับแรงดันตามแรงดันสปริงที่กำหนด
หลัก โดยทั่วไป อุปกรณ์ก็จะมีเท่านี้ ก็มาดูการทำงานของมันต่อกันเลย ตามรูป
น้ำมันเครื่อง จะถูกปั้มขึ้นมาจะไหลผ่านฐานกรองน้ำมันเครื่องเข้ามายังกรองน้ำมันเครื่อง โดยมี Sealing Ring ป้องกันรั้วนั้นเอง และไหลผ่านทาง Cover Plate เข้าไปยังภายในตัวกรองผ่าน ผ้ากรองน้ำมันเครื่อง Filter Media และไหลกลับไปยังเครื่องอีกครั้งในสภาพวะปกติ วนอยู่แบบนี้
อ้าวแล้ว พวก Anti-Drain Valve , Bypass Valve และ Relief Spring มันจะทำงานตอนไหน ?
ในสภาพวะที่ไม่ปกติ เช่น กรองเริ่มอุดตัดทำให้การกรองไม่ดี หรือ ใช้รอบเครื่องสูงขึ้น แรงดันน้ำมันก็จะมากขึ้น Anti-Drain Valve จะป้องกันน้ำมันไหลกลับ บ้างครั้ง แรงดันสูงเกินกว่าค่า Relief Spring กำหนด ก็จะยกให้น้ำมันไหลผ่านไปทาง Bypass Valve ออกไป เพื่อป้องกันไม่ให้เครื่องยนต์เสียหายอันเกิดมาจากแรงดันในระบบต่ำ น้ำมันเครื่องไปหล่อลื่นชิ้นส่วนไม่ทันนั้นเอง
นั้นหมายความว่า
ในกรณีที่ผ้ากรองน้ำมันสกปรกมาก น้ำมันในระบบก็ยังไหลด้วยแรงดันได้เป็นปกตินั้นเอง
ในกรณีที่ใช้รอบเครื่องสูง น้ำมันบ้างส่วนจะไม่ได้ถูกกรอง หากแรงดันน้ำมันสูงเกินค่ากดของ Relief Spring นั้นเอง
พอเข้าใจกันละ ที่นี้มาดูว่ากรองน้ำมันเครื่องที่ดี ควรเป็นอย่างไร เราก็มาดูที่หัวใจหลักของมันก่อนกันเลย นั้นคือ ผ้ากรองน้ำมันเครื่อง
ขนาดของผ้ากรองยิ่งมีขนาดละเอียดมากยิ่งดี
โดยปกติแล้ว ตามมาตรฐานของประเทศญี่ปุ่นกำหนดให้ต้องสามารถกรองตะกอนขนาด 25 micron ซึ่งส่วนใหญ่ก็จะผลิตมาระหว่าง 25-20 micron อยู่แล้ว (ส่วนประเทศไทยไม่แน่ใจว่ามีกำหนดหรือเปล่าและเท่าไร แต่รับรองว่าคงไม่ดีเท่าเขาแน่นอน)
พื้นที่หน้าตัดของผ้ากรองน้ำมันเครื่องยิ่งมากยิ่งดี
ดูจากรูปแล้วพอจะเข้าใจหรือเปล่าครับ หากเรามีผ้ากรองมีพื้นที่หน้าตัดน้อย กรองก็จะตันเร็วนั้นเอง ในตลาด มีการผลิตกรองเพื่อลดต้นทุนโดยการลดพื้นที่ผ้ากรอง และขนาดกรอง อย่างที่ผมบอกไป ยิ่งมากยิ่งดี
เมื่อผ่าออกมาและเอามาวัดดูพื้นที่การผ้ากรองในขนาดที่ตัวกรองภายนอกเท่ากันแต่พื้นที่ไส้กรองหายไป 50%
อีกวิธีที่ต่างประเทศเขาวัดคือน้ำหนักของตัวกรอง หากตัวไหนในขนาดที่เท่ากันมีน้ำหนักมากกว่า ก็แสดงให้เห็นว่าผ้ากรองน้ำมันเครื่องก็มีมากกว่าเช่นกัน อันนี้ก็ลองดูครับ
กรองน้ำมันเครื่องที่ดีอายุจะไม่ค่อยเกิน 5,000 กม. เพราะมันกรอง ได้มีประสิทธิ์ภาพ มันเลยกรองเก็บสิ่งสกปรกได้มากนั้นเองทำให้ตัวมันตันเร็ว
ขอขอบคุณข้อมูลจาก https://minkara.carview.co.jp/userid/465912/blog/37807032/
หน้าที่ ป้องกันการรั่วซึมของน้ำมันเครื่องระหว่างฐานกรองกับ กรอง เวลาติดตั้งความจะมีสารหล่อลื่น (ปกติจะมีมาบ้างส่วน) แต่แนะนำให้ทา น้ำมันเครื่อง เพิ่มทุกครั้ง
2. Cover Plate ตัวปิดฐานกรองน้ำมันเครื่อง เป็นฝาปิด และช่องทางให้น้ำมันเครื่องไหล เข้า และ ออก
3. Anti-Drain Valve หน้าที่ ป้องกันน้ำมันไหลย้อนกลับ
4. Filter Media ผ้ากรองหรือไส้กรองน้ำมันเครื่องนั้นเอง (หัวใจหลัก)
หน้าที่ กรองสิ่งสกปรกในน้ำมันเครื่อง
5. Support Tube แกนกรองน้ำมันเครื่อง เป็นแกนให้ผ้ากรองยึดติดโครงสร้างเหล็กรูพรุน
6. Bypass Valve ช่องระบายน้ำมันเครื่อง เพื่อรักษาระดับแรงดัน
7.Relief Spring หน้าที่ รักษาระดับแรงดันตามแรงดันสปริงที่กำหนด
หลัก โดยทั่วไป อุปกรณ์ก็จะมีเท่านี้ ก็มาดูการทำงานของมันต่อกันเลย ตามรูป
ในสภาพวะที่ไม่ปกติ เช่น กรองเริ่มอุดตัดทำให้การกรองไม่ดี หรือ ใช้รอบเครื่องสูงขึ้น แรงดันน้ำมันก็จะมากขึ้น Anti-Drain Valve จะป้องกันน้ำมันไหลกลับ บ้างครั้ง แรงดันสูงเกินกว่าค่า Relief Spring กำหนด ก็จะยกให้น้ำมันไหลผ่านไปทาง Bypass Valve ออกไป เพื่อป้องกันไม่ให้เครื่องยนต์เสียหายอันเกิดมาจากแรงดันในระบบต่ำ น้ำมันเครื่องไปหล่อลื่นชิ้นส่วนไม่ทันนั้นเอง
ในกรณีที่ผ้ากรองน้ำมันสกปรกมาก น้ำมันในระบบก็ยังไหลด้วยแรงดันได้เป็นปกตินั้นเอง
ในกรณีที่ใช้รอบเครื่องสูง น้ำมันบ้างส่วนจะไม่ได้ถูกกรอง หากแรงดันน้ำมันสูงเกินค่ากดของ Relief Spring นั้นเอง
พอเข้าใจกันละ ที่นี้มาดูว่ากรองน้ำมันเครื่องที่ดี ควรเป็นอย่างไร เราก็มาดูที่หัวใจหลักของมันก่อนกันเลย นั้นคือ ผ้ากรองน้ำมันเครื่อง
ขนาดของผ้ากรองยิ่งมีขนาดละเอียดมากยิ่งดี
โดยปกติแล้ว ตามมาตรฐานของประเทศญี่ปุ่นกำหนดให้ต้องสามารถกรองตะกอนขนาด 25 micron ซึ่งส่วนใหญ่ก็จะผลิตมาระหว่าง 25-20 micron อยู่แล้ว (ส่วนประเทศไทยไม่แน่ใจว่ามีกำหนดหรือเปล่าและเท่าไร แต่รับรองว่าคงไม่ดีเท่าเขาแน่นอน)
พื้นที่หน้าตัดของผ้ากรองน้ำมันเครื่องยิ่งมากยิ่งดี
ดูจากรูปแล้วพอจะเข้าใจหรือเปล่าครับ หากเรามีผ้ากรองมีพื้นที่หน้าตัดน้อย กรองก็จะตันเร็วนั้นเอง ในตลาด มีการผลิตกรองเพื่อลดต้นทุนโดยการลดพื้นที่ผ้ากรอง และขนาดกรอง อย่างที่ผมบอกไป ยิ่งมากยิ่งดี
เมื่อผ่าออกมาและเอามาวัดดูพื้นที่การผ้ากรองในขนาดที่ตัวกรองภายนอกเท่ากันแต่พื้นที่ไส้กรองหายไป 50%
อีกวิธีที่ต่างประเทศเขาวัดคือน้ำหนักของตัวกรอง หากตัวไหนในขนาดที่เท่ากันมีน้ำหนักมากกว่า ก็แสดงให้เห็นว่าผ้ากรองน้ำมันเครื่องก็มีมากกว่าเช่นกัน อันนี้ก็ลองดูครับ
กรองน้ำมันเครื่องที่ดีอายุจะไม่ค่อยเกิน 5,000 กม. เพราะมันกรอง ได้มีประสิทธิ์ภาพ มันเลยกรองเก็บสิ่งสกปรกได้มากนั้นเองทำให้ตัวมันตันเร็ว
ขอขอบคุณข้อมูลจาก https://minkara.carview.co.jp/userid/465912/blog/37807032/
ความคิดเห็น