1. จัดการการฝึกอบรม รัฐบาลกำหนดให้ บริษัท ต่างๆต้องมีการฝึกอบรมเกี่ยวกับการขับรถฟอร์คลิฟท์อย่าปลอดภัย ประมาณ 70% ของอุบัติเหตุจากรถฟอร์คลิฟท์ ถูกป้องกันได้โดยการฝึกอบรมที่เหมาะสม และมีการฝึกอบรมการทบทวนใหม่หนึ่งครั้งต่อปีนอกเหนือจากการฝึกอบรมพนักงานใหม่ ช่วยให้มีวิธีการปฏิบัติเป็นไปอย่างสม่ำเสมอและเป็นแนวทางเดียวกัน
2. จัดการคลังสินค้าให้สะอาดและมีระเบียบ คลังสินค้าที่สะอาดและมีระเบียบจัดเป็นรากฐานของคลังสินค้าที่ปลอดภัย การมีสิ่งกีดขวาง และแสงสว่างไม่เพียงพอ อาจนำไปสู่การเกิดอุบัติเหตุ ควรได้รับการดูแลอยู่ตลอดเวลา
3. เพิ่มกลไกด้านความปลอดภัย ออกแบบคลังสินค้าที่ให้ความสำคัญกับความปลอดภัยโดยการนำเอาอุปกรณ์ที่ช่วยเพิ่มการมองเห็นและการสื่อสาร เช่น ติดตั้งไฟสัญญานและสัญญานเสียงที่รถฟอร์คลิฟท์เพื่อให้สามารถมองเห็นและได้ยินจากระยะไกลได้ ติดตั้งกระจกไว้ที่มุมทางเดินเพื่อเพิ่มทัศนวิสัย ถ้าเป็นไปได้ทางเดินและทางเดินควรกว้างพอที่จะรองรับคนเดินเท้าและรถยกได้อย่างปลอดภัย
4. มีการบำรุงรักษารถฟอร์คลิฟท์ที่ดี มีการตรวจสอบประจำวันของรถฟอร์คลิฟท์ก่อนที่ผู้ขับขี่จะเริ่มขับใช้งาน ผู้ขับขี่ควรตรวจสอบการรั่วไหล (น้ำมันเชื้อเพลิง,น้ำมันไฮดรอลิก,น้ำมันเครื่อง,น้ำหล่อเย็นหม้อน้ำ) ตรวจสภาพยาง, ตรวจสอบสายไฮดรอลิคและสายพานเครื่องยนต์ หากพบปัญหาใด ๆ ต้องให้ช่างซ่อมทำการซ่อมหรือแก้ไขก่อนนำรถไปใช้งาน และควรจัดทำแผนการบำรุงรักษาตามระยะเวลาการทำงานด้วย
5. กำหนดขั้นตอนการขนถ่ายสินค้า การโหลดสินค้าที่มีน้ำหนักมากเกินไปหรือการขับด้วยความเร็วสูง นำไปสู่อุบัติเหตุได้บ่อยมาก ควรจะต้องมีการบังคับใช้ความเร็วสูงสุดสำหรับการทำงาน และผู้ขับขี่จะต้องใช้ความระมัดระวังเป็นพิเศษในทำงาน ควรวางพาเลทไว้อย่างสม่ำเสมอทุกครั้งที่เป็นไปได้ และควรคำนึงถึงน้ำหนักโดยรวมและความสูงที่ซ้อนกันเมื่อเลือกใช้พาเลท
www.facebook.com/goodforklift
gOOdfOrklift.com
2. จัดการคลังสินค้าให้สะอาดและมีระเบียบ คลังสินค้าที่สะอาดและมีระเบียบจัดเป็นรากฐานของคลังสินค้าที่ปลอดภัย การมีสิ่งกีดขวาง และแสงสว่างไม่เพียงพอ อาจนำไปสู่การเกิดอุบัติเหตุ ควรได้รับการดูแลอยู่ตลอดเวลา
3. เพิ่มกลไกด้านความปลอดภัย ออกแบบคลังสินค้าที่ให้ความสำคัญกับความปลอดภัยโดยการนำเอาอุปกรณ์ที่ช่วยเพิ่มการมองเห็นและการสื่อสาร เช่น ติดตั้งไฟสัญญานและสัญญานเสียงที่รถฟอร์คลิฟท์เพื่อให้สามารถมองเห็นและได้ยินจากระยะไกลได้ ติดตั้งกระจกไว้ที่มุมทางเดินเพื่อเพิ่มทัศนวิสัย ถ้าเป็นไปได้ทางเดินและทางเดินควรกว้างพอที่จะรองรับคนเดินเท้าและรถยกได้อย่างปลอดภัย
4. มีการบำรุงรักษารถฟอร์คลิฟท์ที่ดี มีการตรวจสอบประจำวันของรถฟอร์คลิฟท์ก่อนที่ผู้ขับขี่จะเริ่มขับใช้งาน ผู้ขับขี่ควรตรวจสอบการรั่วไหล (น้ำมันเชื้อเพลิง,น้ำมันไฮดรอลิก,น้ำมันเครื่อง,น้ำหล่อเย็นหม้อน้ำ) ตรวจสภาพยาง, ตรวจสอบสายไฮดรอลิคและสายพานเครื่องยนต์ หากพบปัญหาใด ๆ ต้องให้ช่างซ่อมทำการซ่อมหรือแก้ไขก่อนนำรถไปใช้งาน และควรจัดทำแผนการบำรุงรักษาตามระยะเวลาการทำงานด้วย
5. กำหนดขั้นตอนการขนถ่ายสินค้า การโหลดสินค้าที่มีน้ำหนักมากเกินไปหรือการขับด้วยความเร็วสูง นำไปสู่อุบัติเหตุได้บ่อยมาก ควรจะต้องมีการบังคับใช้ความเร็วสูงสุดสำหรับการทำงาน และผู้ขับขี่จะต้องใช้ความระมัดระวังเป็นพิเศษในทำงาน ควรวางพาเลทไว้อย่างสม่ำเสมอทุกครั้งที่เป็นไปได้ และควรคำนึงถึงน้ำหนักโดยรวมและความสูงที่ซ้อนกันเมื่อเลือกใช้พาเลท
www.facebook.com/goodforklift
gOOdfOrklift.com
ความคิดเห็น