ตั้งแต่ยุคแรกๆ ของการเริ่มขยับขยายเข้ามาของโซเชียลมีเดีย ตั้งแต่สมัยโปรแกรมแชทอย่าง Pirch, Msn Messenger การหายไปของ My space และการมาถึงของ Youtube, Facebook, Instagram, line จนปัจจุบันเรียกได้ว่าพฤติกรรมการเสพสื่อ อ่านข่าว เข้าถึงความบันเทิง ได้เปลี่ยนแปลงไปอย่างสิ้นเชิง หนังสือและสื่อสิ่งพิมพ์มียอดขายน้อยลงจนต้องทยอยกันปิดตัวไปหลายรายเมื่อปี 2016 ที่ผ่านมา คนดูทีวีหันไปดู LineTV คนอ่านการ์ตูนหันไปใช้ Webtoon Ookbee Comic แม้แต่การสำรวจเรตติ้งรายการโทรทัศน์ยังต้องให้ความสำคัญกับยอดวิวบน youtube หรือ Internet TV สื่อที่ยังอยู่ได้ก็ต้องปรับตัวกันสุดชีวิต เปลี่ยนจากสื่อสิ่งพิมพ์บนกระดาษหรือในทีวี เข้ามายึดแพลตฟอร์มออนไลน์ ที่ผู้บริโภคส่วนใหญ่ฝังตัวอยู่และใช้กันจนเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตอย่าง Facebook จนถึงตอนนี้ ตัวเลขของผู้ใช้โซเชียลมีเดียมีมากกว่า 2,500 ล้านคน และโตกว่า 9% ทุกๆ ปีทั่วโลก
และเม็ดเงินที่ใช้สำหรับทำการตลาด ฃการโฆษณาก็ลงมาสะพัด บนสื่อออนไลน์ตามการ เปลี่ยนแปลงของพฤติกรรมผู้บริโภคในยุคดิจิตอลไปแล้ว ซึ่งตัวเลขเม็ดเงินการทำการตลาดโฆษณาบนโซเชียลมีเดียทั่วโลกนั้น เรียกได้ว่ามหาศาลถึง10,900 ล้านเหรียญสหรัฐ และเติบโตถึง 55% หรือ เราลองมาดูเทรนด์ของโซเชียลมีเดียที่ผู้ประกอบการจะต้องใส่ใจ เพื่อประโยชน์ในการทำการตลาด สร้างแบรนด์ และสื่อสารกับผู้บริโภค อย่างที่ Tom Ward นักการตลาดบนโซเชียลมีเดีย ได้ทำนายไว้ว่าจะเกิดขึ้น ในปี 2017 บนเวบไซต์ forbes.com ดังนี้
1. Live Video:
แม้ว่าปีที่แล้วการถ่ายทอดสดวีดีโอผ่านช่องทางโซเชียลมีเดีย อย่าง Facebook Live, Youtube Live เริ่มเป็นกระแส แต่ก็ยังถือว่าอยู่ในช่วงเริ่มแรกอยู่ ข้อมูลวิจัยตลาดจาก บริษัท Focus Vision และ Zanthus ชี้ให้เห็นว่า 41% ของสมาชิกเคเบิ้ลทีวีในอเมริกา วางแผนที่จะยกเลิกการเป็นสมาชิกในอนาคตอันใกล้นี้ และจะเปลี่ยนไปใช้ช่องทางในการรับชมทาง อินเตอร์เน็ตทีวี และทางโซเชียลเน็ตเวิร์คแทน และผู้เชี่ยวชาญในวงการ social media & digital marketing agency ก็ชี้ให้เห็นว่าบริษัทใหญ่ๆ ต่างก็ลงมีกลยุทธ์ในการทำการตลาดและสื่อสารกับลูกค้าผ่าน Facebook Live และ Instagram Stories กันทั้งนั้น และควรจะทำในขณะนี้ที่มันกำลังร้อนแรงและเป็นที่นิยม
แม้ว่าปีที่แล้วการถ่ายทอดสดวีดีโอผ่านช่องทางโซเชียลมีเดีย อย่าง Facebook Live, Youtube Live เริ่มเป็นกระแส แต่ก็ยังถือว่าอยู่ในช่วงเริ่มแรกอยู่ ข้อมูลวิจัยตลาดจาก บริษัท Focus Vision และ Zanthus ชี้ให้เห็นว่า 41% ของสมาชิกเคเบิ้ลทีวีในอเมริกา วางแผนที่จะยกเลิกการเป็นสมาชิกในอนาคตอันใกล้นี้ และจะเปลี่ยนไปใช้ช่องทางในการรับชมทาง อินเตอร์เน็ตทีวี และทางโซเชียลเน็ตเวิร์คแทน และผู้เชี่ยวชาญในวงการ social media & digital marketing agency ก็ชี้ให้เห็นว่าบริษัทใหญ่ๆ ต่างก็ลงมีกลยุทธ์ในการทำการตลาดและสื่อสารกับลูกค้าผ่าน Facebook Live และ Instagram Stories กันทั้งนั้น และควรจะทำในขณะนี้ที่มันกำลังร้อนแรงและเป็นที่นิยม
2. Messaging Apps:
แอพพลิเคชั่นการส่งข้อความแชท ก็จะเป็นเทรนด์ในปีหน้าต่อไปแน่นอน เพราะช่องทางการสื่อสารหาลูกค้าแบบตัวต่อตัวเป็นไอเดียที่ดีในการทำการตลาด อย่างไลน์ที่หลายๆ แบรนด์ก็มี official account ของตัวเอง เพราะสามารถสร้างความผูกพันกับลูกค้าได้เป็นอย่างดี และยังปรับและพัฒนาเนื้อหาให้เหมาะกับพฤติกรรมของลูกค้าแต่ละคนได้ ผ่านทางซอฟต์แวร์ด้านแชท อย่าง chatbot ที่เป็นตัวชูโรงของ Messaging Apps และมีการแข่งขันและพัฒนากันอย่างเข้มข้นในปีที่ผ่านมา
แอพพลิเคชั่นการส่งข้อความแชท ก็จะเป็นเทรนด์ในปีหน้าต่อไปแน่นอน เพราะช่องทางการสื่อสารหาลูกค้าแบบตัวต่อตัวเป็นไอเดียที่ดีในการทำการตลาด อย่างไลน์ที่หลายๆ แบรนด์ก็มี official account ของตัวเอง เพราะสามารถสร้างความผูกพันกับลูกค้าได้เป็นอย่างดี และยังปรับและพัฒนาเนื้อหาให้เหมาะกับพฤติกรรมของลูกค้าแต่ละคนได้ ผ่านทางซอฟต์แวร์ด้านแชท อย่าง chatbot ที่เป็นตัวชูโรงของ Messaging Apps และมีการแข่งขันและพัฒนากันอย่างเข้มข้นในปีที่ผ่านมา
3. Social Commerce:
ทั้งแบรนด์ใหญ่ แบรนด์เล็กต่างก็เปลี่ยนพฤติกรรมการซื้อขายจาก E-Commerce แบบเดิมๆ มาเป็น E-Commerce ผ่านโซเชียลมีเดีย ตามพฤติกรรมของผู้บริโภคที่เปลี่ยนไป นอกจากการสื่อสารและทำการตลาดของแบรนด์ผ่านทาง Social Media แล้วก็ยังมีการซื้อขายแบบเสร็จสรรพ เรียกได้ว่าปิดการขายจ่ายเงินได้เลยในแอพเดียว ที่มีช่องทาง Payment เป็นของตัวเองอีกด้วย และผู้บริโภคในยุคดิจิตอลก็ต้องการความง่ายดายและสะดวกสบายมากขึ้น ที่ทั้งอ่านข่าวสาร เช็คเทรนด์ ดูกระแสเลือกซื้อสินค้าและจ่ายเงิน โดยไม่ต้องออกไปแพลตฟอร์มอื่นเลย และทั้ง Line, Pinterest, Twitter และ Instagram ต่างก็มาลงเล่นในสนาม Social Commerce นี้
ทั้งแบรนด์ใหญ่ แบรนด์เล็กต่างก็เปลี่ยนพฤติกรรมการซื้อขายจาก E-Commerce แบบเดิมๆ มาเป็น E-Commerce ผ่านโซเชียลมีเดีย ตามพฤติกรรมของผู้บริโภคที่เปลี่ยนไป นอกจากการสื่อสารและทำการตลาดของแบรนด์ผ่านทาง Social Media แล้วก็ยังมีการซื้อขายแบบเสร็จสรรพ เรียกได้ว่าปิดการขายจ่ายเงินได้เลยในแอพเดียว ที่มีช่องทาง Payment เป็นของตัวเองอีกด้วย และผู้บริโภคในยุคดิจิตอลก็ต้องการความง่ายดายและสะดวกสบายมากขึ้น ที่ทั้งอ่านข่าวสาร เช็คเทรนด์ ดูกระแสเลือกซื้อสินค้าและจ่ายเงิน โดยไม่ต้องออกไปแพลตฟอร์มอื่นเลย และทั้ง Line, Pinterest, Twitter และ Instagram ต่างก็มาลงเล่นในสนาม Social Commerce นี้
4. Virtual Reality:
ในปี 2016 ที่ผ่านมาเราอาจจะยังเห็นเพียงแค่โซเชียลมีเดียกระแสหลักอย่าง Facebook และ Youtube ที่ได้เริ่มเปิดตัวกันไปแล้วสำหรับ 360 VR Videos แต่อาจจะยังไม่ได้เห็นอะไรที่เป็นกระแสเกี่ยวกับ Virtual Reality หรือเทคโนโลยีจำลองโลกเสมือนจริงสักเท่าไหร่นัก มีแค่บางวงการที่มีการทำมาใช้ อย่างแวดวงการบินและเกมคอมพิวเตอร์ แต่ปีนี้นักการตลาดยุคดิจิตอลอย่าง David Brickley แห่ง STNdigital ก็ยืนยันว่าเทคโนโลยีนี้จะถูกนำมาใช้และฮอตฮิตในสื่อสังคมออนไลน์ ในปี 2017 นี้แน่ๆ ถ้าแก้ปัญหาเรื่องอุปกรณ์สวมใส่ที่ใหญ่เทอะทะไปได้
ในปี 2016 ที่ผ่านมาเราอาจจะยังเห็นเพียงแค่โซเชียลมีเดียกระแสหลักอย่าง Facebook และ Youtube ที่ได้เริ่มเปิดตัวกันไปแล้วสำหรับ 360 VR Videos แต่อาจจะยังไม่ได้เห็นอะไรที่เป็นกระแสเกี่ยวกับ Virtual Reality หรือเทคโนโลยีจำลองโลกเสมือนจริงสักเท่าไหร่นัก มีแค่บางวงการที่มีการทำมาใช้ อย่างแวดวงการบินและเกมคอมพิวเตอร์ แต่ปีนี้นักการตลาดยุคดิจิตอลอย่าง David Brickley แห่ง STNdigital ก็ยืนยันว่าเทคโนโลยีนี้จะถูกนำมาใช้และฮอตฮิตในสื่อสังคมออนไลน์ ในปี 2017 นี้แน่ๆ ถ้าแก้ปัญหาเรื่องอุปกรณ์สวมใส่ที่ใหญ่เทอะทะไปได้
ส่วน AR หรือเทคโนโลยีที่เติมแต่งโลกจริงด้วยข้อมูลดิจิตอลนั้น ก็ถูกนำร่องเปิดตัวให้โลกรู้จักด้วย Pokemon Go และ Google glass ไปเรียบร้อยแล้ว
5. Social Media Channel ยังคงเดินหน้าเป็นกระแสหลักต่อไป :
อย่าง Snapchat ที่จ่อจะ IPO เต็มที่นั้นก็ฮอตฮิตติดลมบนที่อเมริกาไปอย่างไม่ต้องห่วงแล้ว และเราก็คงเห็นกระแสที่มากขึ้นในประเทศไทยใน 2017 นี้ สำหรับ Line, Facebook, Twitter, Instagram, Youtube นั้นก็กลายเป็นสื่อกระแสหลักอย่างเต็มรูปแบบ และเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตประจำวันของผู้คนในยุคดิจิตอลที่แยกกันไม่ออกไปแล้ว และจะยิ่งมีความสำคัญและส่งอิทธิพลพฤติกรรมของผู้บริโภคมากขึ้นในอนาคต ให้นักการตลาด ผู้ประกอบการทั้งยักษ์ใหญ่และรายย่อย ลงมาใช้ความคิดสร้างสรรค์ และเทคโนโลยีใหม่ๆ ในการใช้ช่องทางเหล่านี้ให้เป็นประโยชน์กับธุรกิจของตัวเองมากที่สุด
อย่าง Snapchat ที่จ่อจะ IPO เต็มที่นั้นก็ฮอตฮิตติดลมบนที่อเมริกาไปอย่างไม่ต้องห่วงแล้ว และเราก็คงเห็นกระแสที่มากขึ้นในประเทศไทยใน 2017 นี้ สำหรับ Line, Facebook, Twitter, Instagram, Youtube นั้นก็กลายเป็นสื่อกระแสหลักอย่างเต็มรูปแบบ และเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตประจำวันของผู้คนในยุคดิจิตอลที่แยกกันไม่ออกไปแล้ว และจะยิ่งมีความสำคัญและส่งอิทธิพลพฤติกรรมของผู้บริโภคมากขึ้นในอนาคต ให้นักการตลาด ผู้ประกอบการทั้งยักษ์ใหญ่และรายย่อย ลงมาใช้ความคิดสร้างสรรค์ และเทคโนโลยีใหม่ๆ ในการใช้ช่องทางเหล่านี้ให้เป็นประโยชน์กับธุรกิจของตัวเองมากที่สุด
หวังว่าชาว Disrupt ทุกท่านจะใช้ประโยชน์จาก Social Media ในการสร้างสรรค์ความสำเร็จในยุคที่ทั้งโลกเชื่อมถึงกันได้ด้วยเทคโนโลยี และคนธรรมดาก็สามารถใช้สื่อหลักในการสื่อสารไปสู่คนทั้งโลกได้ค่ะ
ความคิดเห็น